ต้องมีการตรวจสอบเงื่อนไขของกระบวนการและเก็บข้อมูลไว้ในเครือข่ายที่ใหญ่ขึ้นกว่าเดิม เพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนดทางกฎหมายและระเบียบข้อบังคับ เทคโนโลยีสารสนเทศช่วยเปิดโอกาสใหม่ๆ ในการใช้ประโยชน์จากข้อมูลจำนวนมหาศาลที่รวบรวมไว้ในห้องปฏิบัติการอัตโนมัติที่ทันสมัย ห้องปฏิบัติการแห่งอนาคตจะนำเสนอความท้าทายและโอกาสในรูปแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน เนื่องจากปริมาณงานที่สูงขึ้น กระบวนการอัตโนมัติที่ควบคุมอย่างแม่นยำ และการเก็บรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลจะช่วยแก้ปัญหาในปัจจุบันและนำแนวคิดใหม่ๆ มาสู่โลก

ห้องปฏิบัติการ SMART เริ่มต้นด้วยการเปลี่ยนขั้นตอนแบบแมนนวลในโมดูลระบบและเครื่องมือที่สามารถผสานรวมเข้ากับกระบวนการทั้งหมดได้อย่างง่ายดายให้ดำเนินการโดยอัตโนมัติ ส่วนประกอบเหล่านี้มีการเชื่อมต่อเครือข่ายเข้าด้วยกันเพื่อควบคุมและรวบรวมข้อมูลผ่านซอฟต์แวร์ผสานรวมห้องปฏิบัติการ (LIMS) ห้องปฏิบัติการแห่งอนาคตสร้างขึ้นจากซอฟต์แวร์ดังกล่าว ซึ่งช่วยกำหนดโครงร่างกระบวนการและผสานรวมระบบจัดการข้อมูลดิจิทัลเข้ากับกระบวนการ ผลลัพธ์ที่ได้คือระบบที่ยืดหยุ่นและมีประสิทธิภาพ ซึ่งตั้งค่าได้รวดเร็วและตรวจสอบได้ง่ายกว่ากระบวนการแบบแมนนวล

เนื่องจากมีการปรับเปลี่ยนกระบวนการทำงานให้กลายเป็นดิจิทัลมากขึ้น จึงต้องมีการคิดทบทวนเกี่ยวกระบวนการและโครงสร้างต่างๆ ในห้องปฏิบัติการใหม่ อุปกรณ์และระบบในห้องปฏิบัติการจะต้องสามารถเชื่อมต่อเครือข่ายและเชื่อมโยงกันระหว่างฝั่งฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ (Hardware And Software Handshake) เพื่ออำนวยความสะดวกในการแลกเปลี่ยนตัวอย่างและข้อมูล การดำเนินการเช่นนี้ต้องการโซลูชันอัตโนมัติที่ซับซ้อนและครอบคลุมมากขึ้นพร้อมด้วยระบบควบคุมและตรวจสอบแบตช์ที่ไม่ยุ่งยาก ซึ่งเจ้าหน้าที่ห้องปฏิบัติการสามารถเข้าถึงได้ผ่านจอแสดงผลแบบกราฟิกในห้องที่เข้าใจง่าย ในขณะที่การผลิตและข้อมูลจะส่งไปยังเครือข่ายระดับที่สูงกว่า ซึ่งอุตสาหกรรมก็ได้ตอบสนองต่อความต้องการเหล่านี้แล้ว เนื่องจากจำนวนอุปกรณ์ในห้องปฏิบัติการที่สามารถเชื่อมต่อเครือข่ายได้พร้อมฟังก์ชันอัจฉริยะนั้นกำลังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จำนวนโซลูชัน LIMS เพิ่มขึ้น และมาตรฐานแบบเปิดสำหรับการถ่ายโอนข้อมูลห้องปฏิบัติการ เช่น SiLA ก็กำลังเป็นที่นิยมมากขึ้น ห้องปฏิบัติการ 4.0 เข้าใกล้ความจริงแล้ว

แนวคิดมากมายสำหรับห้องปฏิบัติการอัตโนมัติในปัจจุบันและอนาคตมาจากระบบอัตโนมัติในอุตสาหกรรมอื่นๆ ตัวอย่างเช่น แนวคิดเกี่ยวกับหุ่นยนต์จำนวนมากมีรากฐานในเชิงพาณิชย์ครั้งแรกจากอุตสาหกรรมยานยนต์และการประกอบชิ้นส่วนน้ำหนักเบา มีกระบวนการอัตโนมัติเพียงไม่กี่กระบวนการในโลกที่มีการควบคุมอย่างเข้มงวดเท่ากับการผลิตชิปเซมิคอนดักเตอร์ ในฐานะผู้นำด้านระบบอัตโนมัติในอุตสาหกรรมเหล่านี้ Festo มีประสบการณ์ในเรื่องนี้และกำลังใช้ประสบการณ์เหล่านี้อยู่ โรงงานผลิตมาตรฐานอุตสาหกรรม 4.0 (Industrial Internet Of Things (IIoT)) ของ Festo ที่เมือง Ostfildern ใน Stuttgart เป็นศูนย์การเรียนรู้สำหรับเทคโนโลยีและกระบวนการใหม่ๆ และเป็นหนึ่งในแหล่งผลิตที่สำคัญที่สุดของ Festo

Festo ได้รับแรงบันดาลใจจากการใช้งานและความเข้าใจในอุตสาหกรรม 4.0 (Industrial Internet Of Things (IIoT)) ในการพัฒนาแพ็คเกจระบบอัตโนมัติเพื่อช่วยพันธมิตรห้องปฏิบัติการและลูกค้าสร้างระบบย่อย/โมดูลอัจฉริยะที่สามารถใช้สร้างเครื่องมือ ระบบ หรือกระบวนการอัตโนมัติสำหรับห้องปฏิบัติการอัจฉริยะในอนาคต แพ็คเกจแบบกำหนดเองเหล่านี้ประกอบไปด้วยส่วนประกอบที่ได้รับการปรับปรุงและผ่านการตรวจสอบจาก Festo และซัพพลายเออร์ระบบอัตโนมัติในห้องปฏิบัติการที่เชี่ยวชาญแล้ว โดยมีการกำหนดค่าแพ็คเกจให้สามารถใช้งานระบบควบคุมการเคลื่อนไหวแบบเปิดอัจฉริยะระหว่างโมดูลได้ แทนที่จะตั้งโปรแกรมให้กระบวนการทีละขั้นตอนใหม่ซ้ำๆ โมดูลซอฟต์แวร์ควบคุมการเคลื่อนไหวที่ทันสมัยที่สุดกลับช่วยให้ผู้สร้างระบบสามารถกำหนดพารามิเตอร์และเชื่อมโยงโมดูลได้

พันธมิตรและลูกค้าของเราร่วมกันกำหนดข้อกำหนดสำหรับระบบย่อยแต่ละระบบ เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นและความสะดวกในการใช้งานให้อยู่ในระดับสูงสุด ความเข้าใจเกี่ยวกับการใช้งานและการมีส่วนร่วมตั้งแต่เนิ่นๆ จะทำให้ผลลัพธ์ออกมาดีที่สุด Festo ทำงานร่วมกับวิศวกรจากบริษัทพันธมิตรหลายแห่งเพื่อให้แน่ใจว่าโมดูลต่างๆ เข้ากันได้อย่างลงตัวรวมถึงผสานรวมอินเตอร์เฟซและซอฟต์แวร์ที่จำเป็นเข้ากับโซลูชันการทำงานที่เหมาะสมที่สุด

ทีมวิศวกรรมและการใช้งานของ Festo MedLab ประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญจากหลากหลายสาขาด้านระบบอัตโนมัติ (เครื่องมือ ระบบ และกระบวนการ) และมีองค์ความรู้เกี่ยวกับลูกค้าจากหลากหลายอุตสาหกรรมตลอดจนองค์ความรู้เกี่ยวกับการผลิตของบริษัทเอง เพื่อพัฒนาโมดูล Plug & Work ที่พร้อมใช้งานและผ่านการตรวจสอบสำหรับห้องปฏิบัติการ SMART แห่งอนาคต วิทยาการหุ่นยนต์ในรูปแบบของการจัดการแบบ 2 มิติและ 3 มิติ ระบบการจ่ายของเหลว และระบบปิดฝา/เปิดฝาจัดอยู่ในโมดูลปัจจุบันของ Festo ด้วย การจัดการตัวอย่าง การวัดตวงด้วยปิเปต การระบุตัวตน และอื่นๆ อีกมากมายดำเนินการโดยระบบพันธมิตรที่สนับสนุนโดยซอฟต์แวร์อัจฉริยะที่ตั้งโปรแกรมได้ (CODESYS) ของ Festo

ไม่ว่าจะเป็นการทำงานร่วมกันในการพัฒนา ความถูกต้อง หรือความสม่ำเสมอในกระบวนการของคุณ เราคือพันธมิตรของคุณในด้านประสิทธิภาพและความสำเร็จ

บทความที่น่าสนใจ

อุปกรณ์สำหรับห้องปฏิบัติการที่คุ้มค่า

นวัตกรรม

ความคุ้มค่าเมื่อพัฒนาอุปกรณ์สำหรับห้องปฏิบัติการ

บริษัทชีววิทยาศาสตร์และชีวเภสัชที่รักษาคุณภาพของงานบริการไว้ได้ในช่วงวิกฤตไวรัสโคโรนากำลังมุ่งเน้นไปที่การปรับการดำเนินงานให้เข้ากับภาวะปกติใหม่และปรับปรุงประสิทธิภาพด้านต้นทุนในห้องปฏิบัติการในระยะยาว ดังนั้น ผู้ผลิตอุปกรณ์สำหรับห้องปฏิบัติการจึงต้องถามตัวเองด้วยว่าจะสามารถพัฒนาและผลิตอุปกรณ์ใหม่สำหรับระบบอัตโนมัติในห้องปฏิบัติการได้อย่างไร ที่จะสามารถนำข้อได้เปรียบที่ชัดเจนมาให้กับลูกค้าในเวลาอันสั้นและใช้ต้นทุนเพียงน้อยนิด

อ่านเพิ่มเติม
SupraMotion ในระบบอัตโนมัติในห้องปฏิบัติการ

นวัตกรรม

เทคโนโลยีตัวนำยิ่งยวดสำหรับห้องปฏิบัติการแห่งอนาคต

ระบบอัตโนมัติและระบบดิจิทัล การใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) หุ่นยนต์และระบบของไหลจุลภาค (Microfluidics) ตลอดจนการแพทย์เฉพาะบุคคล จะกำหนดรูปแบบห้องปฏิบัติการแห่งอนาคต เทคโนโลยีวัสดุที่เป็นนวัตกรรมใหม่ เช่น วัสดุนาโน วัสดุอัจฉริยะ และวัสดุตัวนำยิ่งยวดก็มีบทบาทสำคัญไม่แพ้กัน เทคโนโลยีตัวนำยิ่งยวดช่วยให้ดำเนินการเคลื่อนย้ายพร้อมจัดการวัตถุและของเหลวได้โดยไม่ต้องสัมผัส ทำให้เหมาะสำหรับงานปลอดเชื้อและการทำงานอย่างปลอดภัยในห้องปฏิบัติการและงานเทคโนโลยีชีวภาพ

อ่านเพิ่มเติม